อัยการขอศาล จารึกประวัติศาสตร์โกงชาติ! 'ยิ่งลักษณ์' อ่วม วิบากกรรมข้าว
อัยการขอศาล จารึกประวัติศาสตร์โกงชาติ! 'ยิ่งลักษณ์' อ่วม วิบากกรรมข้าว
15 ส.ค.2560
อัยการสูงสุด โดยนายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล พนักงานอัยการผู้ได้รับมอบหมายให้ดำเนินคดี เป็นตัวแทนโจทก์ ยื่นคำแถลงปิดคดีเป็นลายลักษณ์อักษร ความยาว 211 หน้า ต่อองค์คณะตุลาการศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามกำหนดเมื่อวันที่ ที่ผ่านมา ในคดีฟ้องนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต และความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ของเจ้าพนักงานของรัฐ กรณีละเลยไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว ก่อให้เกิดความเสียหายมหาศาล
**ท้วงจำนำข้าวตั้งแต่ตั้งไข่
อัยการแถลงปิดคดีโดยลำดับการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ที่มีเสียงเตือนท้วงติงจากฝ่ายต่างๆ ตั้งแต่ต้น นับแต่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554
ที่จะดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกทุกเมล็ดตันละ 1.5
หมื่นบาท วันรุ่งขึ้นสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึง
นางสาวยิ่งลักษณ์ และในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)
โดยตรงชี้ปัญหาและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
จากบทเรียนการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรของรัฐบาลก่อนหน้า ที่เกิดการทุจริตทุกขั้นตอน
สร้างความเสียหายมหาศาล จากนั้นมีหนังสือแจ้งเตือนเป็นระยะถึง 4 ฉบับตลอดช่วงโครงการรับจำนำข้าว
ขณะที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ก็ได้ส่งความเห็นเตือนท้วงติงทำนองเดียวกัน
พร้อมแนบรายงานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ที่รับศึกษา
บ่งชี้ว่า บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ของนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร
หรือเสี่ยเปี๋ยง ซึ่งต่อมาแปลงร่างเป็นบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด
มีปัญหาทุจริตเกี่ยวพันกับโครงการรับจำนำข้าวยุคนายทักษิณ ชินวัตร
และมีหนังสือเสนอแนะการป้องกันการทุจริตรับจำนำข้าวถึงรัฐบาลอีกครั้งในวันที่ 30 เมษายน 2555
อีกทั้งมีรายงานของหน่วยงานต่าง
ๆ อาทิ สำนักงบประมาณ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) รวมถึงกระทรวงการคลัง
โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขณะนั้น ที่แจ้งเตือนถึงปัญหาภาระงบประมาณในการดำเนินโครงการ
ตลอดจนการแสดงความคิดเห็นของบุคคลต่างๆ
ในแวดวงที่เกี่ยวข้องผ่านทางสื่อสารมวลชนอย่างกว้างขวาง
จนถึงต่อมาพรรคฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลกลางสภา
เปิดเผยเงื่อนงำการทุจริตการระบายข้าวจีทูจีในโครงการรับจำนำข้าว หากแต่รัฐบาลยังเดินหน้าโครงการต่อ
**รัฐแบกหนี้
ดอกเบี้ยวันละ 36 ล้านบาท
คำแถลงของอัยการแจก
แจงอีกว่า ความเสียหายของโครงการรับจำนำข้าวเกิดขึ้นตามเสียงเตือนท้วงติง
จากที่โครงการตั้งราคารับจำนำสูงกว่าตลาดถึง 50-60%
คาดหมายได้ว่าจะไม่มีเกษตรกรรายใดมาไถ่ข้าวคืนเมื่อครบกำหนด รัฐบาลกลายเป็นผู้ซื้อข้าวรายใหญ่รายเดียว
ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญที่ระบุว่ารัฐต้องไม่ดำเนินการแข่งขันกับเอกชน และต้องส่งเสริมการแข่งขันอย่างเสรี
กลายเป็นผูกขาดการค้าข้าวเสียเอง
ทั้งนี้
รัฐต้องใช้เงินไปรับจำนำข้าวจากชาวนาเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด รวมเวลา 2 ปี 5 ฤดูกาลผลิตเป็นข้าวเปลือกรวม 55 ล้านตัน เป็นเงินรวมถึง 8.78 แสนล้านบาท
ไม่รวมดอกเบี้ยกับค่าใช้จ่ายอื่นที่เกิดขึ้น และตัวเลขเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2557 โครงการนี้ใช้เงินไปแล้ว 9.41 แสนล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 5.36 แสนล้านบาท
และการขาดทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงวันที่ 30 กันยายน 2559 เป็นกว่า 6 แสนล้านบาท
โดยรัฐมีภาระค่าดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยวันละ 36 ล้านบาท
(คิดที่อัตราขั้นตํ่า)
ขณะที่ภาระหนี้สาธารณะจากโครงการรับจำนำข้าว
ถึงเมื่อสิ้นเดือนกันยายน 2559 มีรวม 4.02 แสนล้านบาท เทียบกับภาระหนี้สาธารณะโครงการแทรกแซงสินค้าเกษตรอื่นของรัฐบาลก่อนหน้า
5.26 หมื่นล้านบาท ผ่านไป 5 ปี
ชำระหนี้ก้อนนี้ไปได้เพียงประมาณครึ่งเดียว
“ภาระหนี้ดังกล่าวซึ่งเป็นผลจากการกระทำของจำเลยย่อมตกเป็นภาระแก่แผ่นดิน
ภาระการเงินการคลังไปอีกนานแสนนานเลยทีเดียว”
ยิ่งลักษณ์“เฉย”ปมทุจริต
คำแถลงปิดคดีของอัยการยังชี้อีกว่า
การดำเนินโครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตเกิดขึ้นจริงแทบทุกขั้นตอน
ทั้งการทุจริตซื้อขายสิทธิ์ชาวนาตันละ 2-3
พันบาท ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เห็นควรสั่งฟ้องแล้ว การโกงความชื้นข้าว
ตลอดจนปัญหาข้าวหาย ผิดชนิด เน่าเสีย ไม่ได้มาตรฐาน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
(ป.ป.ท.) กำลังไต่สวนนับพันคดี
จากการไต่สวนของ
ป.ป.ช. พยานหลักฐานมีนํ้าหนักมั่นคงรับฟังได้ว่ามีการทุจริตอย่างชัดแจ้ง
เมื่อมีข้อท้วงติง นางสาวยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ได้สั่งการใดๆ ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด
ทั้งที่ป.ป.ช.มีหนังสือเตือนท้วงติงครั้งแรกวันที่ 7
ตุลาคม 2554
ชี้เป้าให้ระวังกลุ่มเครือข่ายเสี่ยเปี๋ยงแต่ไม่ปรากฏได้มีการดำเนินการใดเพื่อป้องกันหรือยับยั้งการทุจริต
กลับปล่อยให้มีการทำสัญญาระบายข้าวจีทูจีต่อเนื่องถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2556 รวม 8 สัญญา
โดย 4 สัญญาหลังเป็นปริมาณถึง 14
ล้านตัน มูลค่ากว่า 1.4 แสนล้านบาท
“ถือเป็นสิ่งที่ผิดวิสัยและผิดมาตรฐานของคนเป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ
ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการติดตามกำกับดูแลการปฏิบัติตามนโยบายมาตรการและโครงการที่อนุมัติเป็นอย่างยิ่ง”
**แฉซํ้าช่วยกลบเกลื่อนโกง
คำแถลงของอัยการยังชี้พิรุธต่ออีกว่าหลังถูกฝ่ายค้านอภิปรายชำแหละการระบายข้าวจีทูจี
โดยชี้ประเด็นว่า
1. ไม่มีข้าวส่งออก
2. ไม่ได้ทำสัญญากับ
COFCO
ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจผู้เดียวจากรัฐบาลจีนในการซื้อข้าว
3. การจ่ายเงินไม่ผ่าน
L/C แต่เป็นแคชเชียร์เช็คจากธนาคารในประเทศโดยคนของเสี่ยเปี๋ยง
อดีตนายกฯ กลับสั่งให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ เวลานั้น
ไปตรวจสอบตนเอง ไม่ต่างจากให้ไปฟอกตัว โดยนายบุญทรง
อ้างตั้งข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ขึ้นมาสอบแล้ว 2
ครั้งตามกรอบที่นายบุญทรงตั้ง โดยไม่ได้สอบปากคำตัวละครหลักอาทิ น.พ.วรงค์
เดชกิจวิกรม ผู้อภิปราย หรือนายอภิชาติ ที่ปฏิเสธการมาให้การ
“การกระทำของคณะกรรมการชุดที่นายบุญทรง
ตั้ง จึงเหมือนละครปาหี่ที่หลอกลวงประชาชน
ประหนึ่งมีคนตะโกนบอกมีโจรเข้าหน้าบ้านเพื่อให้ไปตรวจสอบให้ตรงจุด
แต่กลับไปตรวจสอบหลังบ้าน”
หลังการตรวจสอบ 2
ครั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้มีการสั่งการตรวจสอบเอาผิดเสี่ยเปี๋ยงกับพวกและการทุจริตระบายข้าวจีทูจีอย่างเข้มข้น
กลับรีบเร่งทำสัญญาอีก 4 สัญญา ปริมาณ 14 ล้านตัน ปล่อยให้มีการเบิกข้าวออกต่อไป
จากตัวเลขการส่งออกข้าวไปนอกราชอาณาจักรของกรมศุลกากรช่วงปี 2554-2557 มีการส่งออกแบบรัฐต่อรัฐ เพียงจำนวนไม่กี่ตัน
เทียบกับสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจีที่มีถึง 8 สัญญา
มีการซื้อขายแล้วประมาณ 20 ล้านตัน
ข้อเท็จจริงจึงขัดกันอย่างสิ้นเชิง และเป็นตัวบ่งชี้ได้ชัดเจนที่สุดว่า
เป็นการซื้อขายโดยทุจริตจริงโดยปราศจากข้อสงสัย
“ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ
เมื่อตรวจสอบการส่งออกข้าว ปรากฏว่าในช่วงวันเวลาดังกล่าว
มีข้าวส่งออกไปนอกราชอาณาจักรจริงจำนวนมาก มูลค่าหลายแสนล้านบาท
แต่กลับส่งออกในนามเอกชน ชื่อบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด” ของเสี่ยเปี๋ยง
คนใกล้ชิดนายทักษิณ พี่ชายจำเลยนั่นเอง ที่ได้ประโยชน์ไปโดยทุจริตตามที่มีการท้วงติงและอภิปรายไม่ไว้วางใจ”
**“เฉลิม”ยันไม่รวมจีทูจี
ประเด็นที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์
อ้างว่าได้เร่งรัดตรวจสอบการกระทำผิดทั้งการปรับนายบุญทรงออกจากรัฐมนตรีพาณิชย์
แล้วตั้งนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ
ควบตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์แต่ในการขึ้นเบิกความเป็นพยานนั้นนายนิวัฒน์
ธำรงบ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถาม ว่าอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ให้ตรวจสอบทุจริตรวมถึงสัญญาระบายข้าวจีทูจี
8 สัญญาด้วยหรือไม่
หรือกรณีมีคำสั่งตั้งร.ต.อ.เฉลิม
อยู่บำรุง เป็นประธานตรวจสอบการทุจริตรับจำนำข้าว แต่ในการเบิกความในศาล
เมื่อถามว่ารวมถึงการตรวจทุจริตระบายข้าวจีทูจีด้วยหรือไม่
ร.ต.อ.เฉลิมกลับบอกว่าไม่เกี่ยวกัน
เป็นข้อยุติว่าการตรวจสอบจีทูจีที่อ้างเป็นการปราบปรามการทุจริตจีทูจีนั้น
เป็นเพียงละครปาหี่ตบตาเท่านั้น
“ส่อไปทางทำนองโกหกประชาชนคนทั้งประเทศปกปิดข้อเท็จจริง
และปิดกั้นหรือบล็อกการตรวจสอบ เพื่อปิดบังอำพรางการทุจริตอย่างแยบยลมีพฤติการณ์
ที่ส่อไปในทางไม่สุจริต ไม่โปร่งใส”
**จารึกประวัติการโกงชาติ
อัยการแถลงปิดคดีสรุปตอนท้ายว่า
นางสาวยิ่งลักษณ์ ใช้นโยบายรับจำนำข้าว
อันเป็นนโยบายประชานิยมที่นำไปสู่การทุจริตเชิงนโยบายของพวกพ้อง
ที่แอบแฝงซ่อนเร้นไปด้วยกลโกง ในการรับจำนำข้าว โดยเอาผลประโยชน์ของชาวนาบังหน้า
ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อชาติบ้านเมืองอย่างร้ายแรงจนยากจะเยียวยา
อันไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย
ขอศาลพิพากษาลงโทษจำเลย
เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่นักการเมือง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ
และประชาชนทั่วไป โดยคดีนี้โจทก์ได้นำสืบพิสูจน์ความผิดของจำเลยจนชัดแจ้งเป็นที่ประจักษ์
คดีมีพยานหลักฐานหนักแน่นน่ารับฟังโดยปราศจากข้อสงสัยแล้ว
เพื่อเป็นการจารึกชื่อบุคคลที่กระทำผิดหรือมีส่วนร่วมกระทำผิด
ไว้ในประวัติศาสตร์การโกงชาติบ้านเมืองให้เป็นที่รับรู้โดยทั่วกันสืบไป
**จำเลยปิดปากรอศาล
ที่มา
อัยการขอศาล
จารึกประวัติศาสตร์โกงชาติ! 'ยิ่งลักษณ์' อ่วม วิบากกรรมข้าว
https://www.thansettakij.com/politics/198426
อัยการยื่นแล้ว
คำแถลงปิดคดี “ยิ่งลักษณ์"ปล่อยโกงจำนำข้าว-"บุญทรง”ทุจริตจีทูจี
https://mgronline.com/crime/detail/9600000083739
อัยการยื่นแถลงปิดคดีจำนำข้าว
'ยิ่งลักษณ์-บุญทรง'
https://prachatai.com/journal/2017/08/72843
อัยการยื่นแถลงปิดคดีจำนำข้าว
“ยิ่งลักษณ์-บุญทรง”
https://tna.mcot.net/tna-136216
“ยิ่งลักษณ์”ระทึก
อัยการรวมแถลงปิดคดี”จำนำข้าว-จีทูจี”376หน้าเอาผิดปล่อยปละละเลย
ส่วนบุญทรง165หน้า
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_630631
เปิดคำแถลงปิดคดีอัยการ
'คดียิ่งลักษณ์' จำนำข้าว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น